จอมพลแห่งฝรั่งเศส และสงครามนโปเลียน ของ มีแชล_แน

แนในชุดจอมพลแห่งฝรั่งเศส

แนได้รับการแต่งตั้งเป็นจอมพลรุ่นแรกของจักรพรรดินโปเลียนเมื่อปี ค.ค.1804 ซึ่งเป็นปีเดียวที่นโปเลียนได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิแห่งชาวฝรั่งเศส จอมพลรุ่นแรกที่ได้รับแต่งตั้งเวลาเดียวกับแน ได้แก่ นิโกลาส์ ดาวูต์ ฌอง ลานน์ อังเดร มาสเซนา ฌอง เดอ ดิเยอ ซูลต์ ฌออากีม มูว์รา หลุยส์ อาแล็กซองดร์ แบร์ทิเยร์ เป็นต้น

ค.ศ. 1805 นโปเลียนส่งกองทัพของแนไปบดขยี้กองทัพออสเตรียที่ทุ่งเอลชิงเก็น ซึ่งสมภูมิครั้งนี้แนเป็นฝ่ายได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด หลังจากศึกนั้นนโปเลียนได้มอบบรรดาศักดิ์เป็นดุ๊กแห่งเอลชินเกน และในปีค.ค. 1806 แนได้ชัยชนะจากกองทัพปรัสเซียในสมภูมิรบที่เยนา ไอเลาและฟรีดลันด์ และในปี ค.ศ. 1808 แนได้ร่วมรบกับจอมพลมาสเซน่าที่สเปนในสงครามคาบสมุทร แนได้ขัดคำสั่งของมาสเซนา เมื่อนโปเลียนทรงรับรู้เรื่องนี้เข้าพระองค์จึงสั่งปลดและส่งกลับไปฝรั่งเศสแบบเสียหน้าเมื่อปี ค.ศ. 1811

บุคลิกและลักษณะของแนนั้น แนเป็นนายทหารที่มีความมุ่งมั่นในหน้าที่ของทหารสูง เพราะเวลาออกรบนั้นเขาจะรบอย่างห้าวหาญ ไม่เกรงกลัวภัยอันตรายใด ๆ เพื่อปลุกใจลูกน้องและกระทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี เขาไม่ต้องการที่จะเลื่อนยศทหารระดับสูง และคัดค้านการเลื่อนยศทั้งต่อหน้าผู้บังคับบัญชาและนายทหารอาวุโส แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนได้รับยศ ในการต่อสู้ของเขานั้นเขามักหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธปืน และใช้ดาบเป็นหลัก เขาจะเน้นฟันดาบหนัก ๆ และควบม้าพุ่งเข้าหาข้าศึกด้วยความเร็วสูงตามแบบการรบของทหารม้า ตลอดการรับใช้ชาติทหารเขาคิดว่าตนเป็นทหารม้าเท่านั้น เขาเป็นคนที่อารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว บุ่มบ่าม และไม่ยอมฟังคำสั่งใครถ้าไม่ใช่คำสั่งของจักรพรรดินโปเลียน จึงมักทำให้การทำงานระหว่างเขากับแม่ทัพคนอื่น ๆ มีปัญหา

การรบที่โบโรดิโนแนเป็นแม่ทัพกองระวังหลังระหว่างการล่าถอยออกจากรัสเซีย เมื่อปี ค.ศ. 1812

ปีค.ศ. 1812 นโปเลียนส่งกองทัพฝรั่งเศสไปบุกครองรัสเซีย เมื่อกองทัพฝรั่งเศสของนโปเลียนไปถึงกรุงมอสโก กลับพบว่ากรุงมอสโกเป็นเมืองร้าง และประชาชนชาวมอสโกเผาเมืองเพื่อไม่ให้นโปเลียนยึดได้ ส่วนพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ได้หลบหนีไปปารีสก่อนหน้านั้น นโปเลียนจึงสั่งถอยทัพออกจากรัสเซีย ระหว่างการถอยทัพนั้นเต็มไปอุปสรรคมาก อาทิ อากาศหนาวเย็น ฝูงหมาป่า เสบียงไม่เพียงพอ และเหล่าทหารคอสแซคเข้าโจมตี ทำให้ทหารฝรั่งเศสบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก จอมพลแนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำกองระวังหลังได้ข้ามแม่น้ำเบเรซินาที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง และปะทะกับกองทัพรัสเซียของนายพลมีฮาอิล คูตูซอฟอย่างห้าวหาญที่ตำบลโบโรดิโน หลังศึกนั้นเขาขว้างปืนคาบศิลาประจำมือลงแม่น้ำตามวิสัยของทหารม้าแล้วกลับไปยังฝรั่งเศสแบบวีรบุรุษ ซึ่งเขาได้เป็นคนฝรั่งเศสคนสุดท้ายที่ออกมาจากพรมแดนรัสเซีย นโปเลียนได้เห็นความกล้าหาญของจอมพลผู้นี้จึงมอบบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าชายแห่งมอสโก และมอบสมญานามให้แนให้เป็นจอมสุรโยธิน

ในปีค.ศ. 1814 แนได้ออกทัพไปที่เมืองเดนเนวิทซ์ในช่วงสงครามมหาสัมพันธมิตร ในสงครามครั้งนี้ศึกคราวนี้แนต้องเจอคข้าศึกที่เป็นสหายเก่าของตน คือพระเจ้าคาร์ลโยฮันที่ 14 ซึ่งเคยเป็นจอมพลของนโปเลียนและเคยเป็นสิบเอกร่วมรบกับแนในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส มีนามเดิมว่าฌอง-บับติสต์ แบร์นาดอตต์จากสงครามคราวนี้แนเป็นฝ่ายแพ้ หลังจากนั้นก็ไปรบที่ไลพ์ซิจจนได้รับบาดเจ็บ

เมื่อแนทราบว่าจักรพรรดินโปเลียนทรงประสงค์ระดมทหารไปตอบโต้ข้าศึกที่บุกมายังปารีส แนจึงตัดสินใจไม่ส่งกองทัพเข้าไปสนับสนุน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังพระราชวังฟงแตนโบลและร่วมมือกับจอมพลคนอื่น ๆ ให้บีบบังคับให้นโปเลียนสละบังลังก์จนเป็นผลสำเร็จ ทำให้นโปเลียนถูกเนรเทศไปยังเกาะเอลบา